ปัจจุบันพันธุ์ลำไยที่เกษตรกรนิยมปลูกร้อยละ 95 เป็นลำไยพันธุ์ดอเนื่องจากสามารถบริโภคสดและแปรงได้แต่ยังมีพันธุ์ลำไยที่เหมาะสำหรับรับประทานสวที่น่าสนใจคือพันธุ์สีชมพู เบี้ยวเขียวเชียงใหม่แห้วและพวงทองซึ่งเป็นพันธุ์ที่มีคุณภาพดีเยี่ยมรสชาติหวานกรอบกลิ่นหอมดังนั้นน่าจะมีการนำพันธ์ดีเหล่านี้กลับคืนสู่ตลาดเพื่อเป็นการสร้างความหลากหลายให้กับผู้บริโภคอีกด้วย
1.พันธุ์ดอหรืออีดอ เป็นลำไยพันธุ์เบาคือออกดอกและเก็บผลก่อนพันธุ์อื่นชาวสวนนิยมปลูกมากที่สุดเพราะเก็บเกี่ยวได้ก่อนทำให้ได้ราคาดีตลาดต่างประเทศนิยมบริโภค สามารถจำหน่ายทั้งผลสดและแปรรูปทั้งลำไยกระป๋องและลำไยอบแห้งขนาดผลค่อนข้างใหญ่กว้าง 27 เซนติเมตรหนา 2. 4 เซนติเมตรสูง 2. 5 เซนติเมตรทรงกลมแป้นเบี้ยวยกบ่าข้างเดียวผิวสีน้ำตาลมีกระหรือตาห่างสีน้ำตาลเข้มเนื้อค่อนข้างเหนียวสีขาวขุ่นปริมาณของแข็งที่ละลายน้ำ 20 Brix เมล็ดขนาดใหญ่ปานกลางรูปทรงกลมแบนเล็กน้อย
2.พันธุ์ชมพูหรือสีชมพู เป็นลำไยพันธุ์กลางเป็นพันธุ์ที่มีคุณภาพดีเยี่ยมรสชาติหวานกรอบกลิ่นหอมเหมาะสำหรับรับประทานสดเป็นที่ยอมรับสำหรับผู้บริโภคภายในประเทศพุ่มต้นสูงโปร่งถิ่นเปราะหักง่ายการเจริญเติบโตดีไม่ทนแล้งเกิดดอกติดผลง่ายปานกลาง การติดผลไม่สม่ำเสมอ ช่อผลยาว ผลขนาดใหญ่ปานกลาง ขนาดผลเฉลี่ย กว้าง 2.9 เซนติเมตร และสูง 2.7 เซนติเมตร ผลทรงค่อนข้างกลม เบี้ยวเล็กน้อย สีน้ำตาลอมแดง ผิวเรียบ มีกระสีคล้ำตลอดผล เปลือกหนา แข็งและเปราะเนื้อหนาปานกลางนิ่มและกรอบ สีชมพูเรื่อๆ ยิ่งผลแก่จัด สีของเนื้อยิ่งเข้ม เนื้อล่อนรสหวาน กลิ่นหอมปริมาณของแข็งที่ละลายน้ำประมาณ 21-22 Brix เมล็ดค่อนข้างเล็ก
3.พันธุ์เบี้ยวเขียวหรืออีเบี้ยวเขียวเป็นลำไยที่มีคุณภาพดีเยี่ยมโดยในประเทศออสเตรเลียมีนักวิจัยทดสอบลำไยพันธุ์ต่างๆทั่วโลกรวมวัวพันธุ์ของไทยพบว่าลำไยพันธุ์เบี้ยวเขียวเป็นพันธุ์ที่มีคุณภาพดีเป็นลำไยพันธุ์หนักที่เก็บพลผลิตได้เข้ากว่าพันธุ์อื่นๆเจริญเติบโตดีทนแล้งได้ดีแต่มักอ่อนแอต่อโรคพุ่มไม้กวาดมักออกดอกเว้นปีช่อพลหลวมผลขณะเล็กมีสีเขียวลำไยพันธุ์เบี้ยวเขียวแบ่งได้เป็น 2 ชนิดคือเบี้ยวเขียวเชียงใหม่และเบี้ยวเขียวป่าเส้า
4.พันธุ์แห้วหรืออีแห้ว เป็นลำไยพันธุ์หนัก ลำต้นไม่ค่อยแข็งแรง กิ่งเปราะหักง่าย เปลือกลำต้นสีน้ำตาลปนแดงเขียว เป็นพันธุ์ที่เจริญเติบโตดีมากทนแล้งได้ดี พันธุ์แห้วแบ่งได้เป็น 2 ชนิด คือ แห้วยอดแดงและแห้วยอดเขียว ลักษณะแตกต่างกันที่สีของใบอ่อนและสีของยอด - แห้วยอดแดงมีใบอ่อนหรือยอดเป็นสีแดง - แห้วยอดเขียวมีใบอ่อนหรือยอดเป็นสีเขียวเกิดดอกและติดผลค่อนข้างยาก อาจให้ผลเว้นปี ช่อ ดอกสั้น ขนาดผลในช่อมักไม่สม่ำเสมอกัน ผลมีขนาดใหญ่ถึงปานกลางกว้าง 2.8 เซนติเมตร หนา 2.6 เซนติเมตร ผลทรงกลมเบี้ยว ฐานผลบุ๋ม ผิวสีน้ำตาล มีกระสีคล้ำตลอดผล เมื่อจับรู้สึกสากมือ เปลือกหนามาก เนื้อหนาแน่น แห้งและกรอบ สีขาวขุ่น รสหวานแหลม กลิ่นหอม มีน้ำปานกลาง เมล็ดขนาดค่อนข้างเล็ก แห้วยอดแดงออกดอกง่ายกว่าแห้วยอดเขียว และมีเนื้อสีค่อนข้างขุ่นน้อยกว่าแห้วยอดเขียว จึงนิยมปลูกกกันมากกว่าแห้วยอดเขียว
5.พันธุ์พวงทอง เป็นพันธุ์ที่มีช่อดอกขนาดใหญ่ ขนาดผลกว้าง 2.5 เซนติเมตร หนา 2.3 เซนติเมตร สูง 2.4 เซนติเมตร ผลทรงค่อนข้างกลมและเบี้ยวเล็กน้อยผิวสีน้ำตาลมีกระสีน้ำตาล เนื้อหนา กรอบ สีขาวครีม รสหวาน ปริมาณของแข็งที่ละลายน้ำประมาณ 22 Brix
Download FIle PDF
วันที่ 20 ธ.ค. 2567, 13:41
วันพุธ ที่ 19 ธ.ค.2567 นายชาตรี ธินนท์ รองผู้ว่าราชการจังหว...
วันที่ 20 ธ.ค. 2567, 13:38
วันพฤหัสบดีที่ 19 ธันวาคม 2567 เวลา 18.00 น. นายโยธิน ประสง...
วันที่ 20 ธ.ค. 2567, 13:21
ขอเชิญช้อปสินค้าผ่าน Facebook LIVE ทางเพจ สำนักงานจัดหางานจังหวัด...
วันที่ 20 ธ.ค. 2567, 12:43
วันที่ 20 ธันวาคม 2567 เวลา 08.30 น. ณ ห้องรับรองผู้ว...