วันที่ 12 ธันวาคม 2566 เวลา 13.00 น. ที่ห้องประชุมหริภุญชัย ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดลำพูน อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน นายสันติธร ยิ้มละมัย ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เป็นประธานมอบเงินสงเคราะห์ประชาชนผู้ประสบอุทกภัยของอำเภอบ้านโฮ่ง และอำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน โดยมีนายโยธิน ประสงค์ความดี ปลัดจังหวัดลำพูน นางปราณี ประทุมมา พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดลำพูน นายสมาน กองแก้ว นายอำเภอเมืองลำพูน นายประกอบ ยอดยา นายอำเภอแม่ทา หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดลำพูน กล่าวว่ามูลนิธิราชประชานุเคราะห์ประจำจังหวัดลำพูนในพระบรมราชูปถัมภ์ขอรายงานการให้ความช่วยเหลือแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุอุทกภัยที่เกิดขึ้นในจังหวัดลำพูน เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2566 จนถึงวันที่ 15 ตุลาคม 2566 เป็นผลให้มีผู้เสียชีวิต จำนวน 2 ราย คือ นายหาญณรงค์ เมธาวีกวิน ประชาชนตำบลมะเขือแจ้ อำเภอเมืองลำพูน และนายหล้า ติ๊บคำ ประชาชนตำบลทาแม่ลอบ อำเภอแม่ทา
ทั้งนี้ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดลำพูน จึงร่วมกับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำพูน สำนักงานเหล่ากาชาด อำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ร่วมกันลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจและสอบถามข้อเท็จจริงจากครอบครัวผู้เสียชีวิตเพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยพิบัติในระยะฟื้นฟู ซึ่งมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ประจำจังหวัดลำพูน ในพระบรมราชูปถัมภ์ได้พิจารณาจ่ายเงินสงเคราะห์แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต กรณีมีผู้เสียชีวิตจากอุทกภัย เป็นเงินทั้งสิ้น 20,000 บาท โดยมอบให้แก่ครอบครัวนายหาญณรงค์ เมธาวีกวิน จำนวน 10,000 บาท และครอบครัวนายหล้า ติ๊บคำ จำนวน 10,000 บาท ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์การพิจารณาการจ่ายเงินสำรองจ่ายมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ จากบัญชีเงินสำรองจ่ายมูลนิธิราชประชานุเคราะห์จังหวัด งานสังคมสงเคราะห์ พร้อมทั้ง เสนอขอรับพระราชทานทุนการศึกษาให้แก่บุตรที่อยู่ในวัยศึกษา ตามระเบียบมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ว่าด้วยทุนพระราชทาน เพื่อการศึกษาสงเคราะห์ ให้แก่ทั้ง 2 ครอบครัว จำนวน 4 ทุน เพื่อให้มีโอกาสศึกษาเล่าเรียนสร้างอนาคตที่ดีและเป็นกำลังสำคัญของครอบครัวต่อไป
ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน กล่าวว่าขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวทั้ง 2 ครอบครัวที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักและเป็นกำลังหลักที่สำคัญของครอบครัวถือเป็นการสูญเสียอย่างกะทันหัน โดยไม่ได้คาดคิด ขอเป็นกำลังใจให้กับครอบครัวทั้งสองครอบครัวในการดำรงชีวิตต่อไป เหตุอุทกภัยในครั้งนี้เป็นภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินก่อให้เกิดความเสียหายทั้งต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน บ้านเรือน พื้นที่การเกษตร ประมง ปศุสัตว์ และสิ่งสาธารณประโยชน์อันส่งผลกระทบอย่างยิ่งต่อการดำรงชีพของราษฎร