ลำพูน เดินหน้าเชิงรุกป้องกันภัยคุกคามที่อาจจะเกิดขึ้น ล่าสุด เตรียมลงพื้นที่เป้าหมาย 4 ตำบลใน 2 อำเภอ เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน

         วันนี้ (วันจันทร์ที่ 13 มกราคม 2568) ที่ห้องประชุมหริภุญชัย ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดลำพูน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดลำพูน จัดประชุมการสร้างระบบการแจ้งเตือนและการวิเคราะห์ภัยคุกคาม ภายใต้งานบริหารจัดการขับเคลื่อน แผนงานตำบล มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โดยนายวิวัฒน์ อินทร์ไทยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน มอบหมายให้นายโยธิน ประสงค์ความดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน นำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมและนำเสนอประเด็นคุกคาม 6 ด้าน ประกอบด้วย 1) การป้องกันและปราบปรามยาเสพติด 2) การป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 3) การรักษาความมั่นคงด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 4) การป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ และผู้หลบหนีเข้าเมือง 5) การรักษาความมั่นคงด้านพลังงานอาหารและน้ำ และ 6) ความมั่นคงทางไซเบอร์

          นอกจากนี้ ที่ประชุมโดย กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดลำพูน ยังได้แจ้งถึงพื้นที่ 4 ตำบล ที่เป็นพื้นที่เป้าหมายเสริมสร้างความมั่นคงในปี 2568 ที่ต้องดำเนินการเชิงรุกเข้าไปรับทราบปัญหาและหาแนวทางแก้ไข(อันเป็นภัยคุกคาม) ได้แก่ พื้นที่ตำบลก้อ อ.ลี้ (ระดับภัยคุกคามสูงสุด สีม่วง) ปัญหาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ไฟป่าหมอกควัน) ตำบลนาทราย อ.ลี้ (ระดับภัยคุกคาม ระดับที่ 2 สีแดง) ปัญหาผู้หลบหนีเข้าเมือง ตำบลป่าพลู อำเภอบ้านโฮ่ง (ระดับภัยคุกคาม ระดับที่ 2 สีแดง) ปัญหาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ไฟป่าหมอกควัน) และตำบลเหล่ายาว อำเภอบ้านโฮ่ง (ระดับภัยคุกคาม ระดับที่ 3 สีส้ม) ปัญหาสาธารณภัย(อุทกภัย) นอกจากนี้ ยังขอให้ทางอำเภอสำรวจในแต่ละตำบลใน 51 ตำบลทั่วจังหวัดลำพูนว่ามีประเด็นภัยคุกคามหรือไม่ เพื่อจัดทำแผนรองรับแก้ไขปัญหา หากเกินขีดความสามารถของระดับอำเภอ สามารถแจ้งทางจังหวัดดำเนินการร่วมได้

           ด้านรองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ได้กล่าวสรุปว่า ประเด็นภัยคุกคามของจังหวัดลำพูนทั้ง 6 เรื่อง เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล โดยด้านที่ 1 การป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ได้ดำเนินการในระดับจังหวัด อำเภอ ผ่านการปราบปราม ป้องกัน บำบัดรักษาและบริหารจัดการ ซึ่งทำอย่างต่อเนื่องทุกปี ด้านที่ 2 การป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จะมีการวางแผนทั้งก่อน ระหว่าง และหลังเกิดเหตุสาธารณภัย ทั้งอุทกภัย ภัยแล้ง หมอกควัน และภัยหนาว และขอให้คำนึงถึงการเข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบความเดือดร้อนให้เร็วที่สุดทุกครั้ง ด้านที่ 3 การรักษาความมั่นคงด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้เน้นย้ำเรื่องมาตรการป้องกันการเผาอย่างเข้มข้นเพื่อป้องกันการเกิดไฟป่า หมอกควัน โดยผู้ว่าราชการจังหวัดมีแผนลงพื้นที่ด้วยตนเองในทุกอำเภอ เพื่อให้การบริหารจัดการเกิดประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ฝากกำชับถึงการตัดไม้ทำลายป่าที่เป็นสาเหตุของสาธารณภัยอื่นที่จะตามมา เช่น ภัยแล้ง อุทกภัย ด้านที่ 4 การป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ และผู้หลบหนีเข้าเมือง ทุกฝ่ายต้องช่วยกันทั้งการกวาดล้าง จับกุม ส่งกลับ และวางแผนรับมืออย่างต่อเนื่อง ด้านที่ 5 การรักษาความมั่นคงด้านพลังงาน อาหารและน้ำ ด้านพลังงาน ใช้พลังงานทดแทนให้มากขึ้น ด้านอาหาร ให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในพื้นที่เป็นหน่วยงานหลักในดูแล ด้านน้ำ ให้บูรณาการร่วมมือกันอย่างต่อเนื่องเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง น้ำมีอุปโภคบริโภคเพียงพอ และ 6) ความมั่นคงทางไซเบอร์ เนื่องจาก ปัจจุบัน ปัญหาดังกล่าวได้ส่งกระทบต่อความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนเป็นวงกว้างและต่อเนื่อง รัฐบาลกำลังผลักดันให้มีกฎหมายลงโทษผู้กระทำผิดเพิ่มขึ้น ส่วนในพื้นที่ ให้เร่งสร้างความเข้าใจให้กับพี่น้องประชาชนเพื่อป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อเพิ่มขึ้น