ลำพูน ให้ทุกพื้นที่เข้มงวดการรับมือและแก้ปัญหาไฟป่าหมอกควันจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย คาดว่าประมาณกลางเดือนเมษายนนี้

        วันนี้ (10 มี.ค. 2568) เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุม POC ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดลำพูน นายวิวัฒน์ อินทร์ไทยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน มอบหมายให้ให้นายโยธิน ประสงค์ความดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน นำคณะเข้าร่วมประชุมกับกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ(บกปภ.ช.) เพื่อติดตามสถานการณ์และการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (P.M 2.5) ครั้งที่ 24/2568 จากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(กทม.) ผ่านระบบ Zoom Meeting ในที่ประชุมได้รับฟังสถานการณ์ภาพรวมทั้งประเทศจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยพื้นที่ป่าสงวน ยังเป็นพื้นที่มีจุดความร้อน(Hot Spot) สูงที่สุด รองลงมา คือ พื้นที่เขตอุทยาน และพื้นที่เกษตร เฉพาะ 17 จังหวัดภาคเหนือ มีจุดความร้อนสะสมวันที่ 1 – 8 มีนาคม 2568 จำนวน 22,041 จุด ลดลงจากปีที่ผ่านมา 

        ด้านผลการดำเนินงานของจังหวัดลำพูน นายวิวัฒน์ อินทร์ไทยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์ชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับนโยบายการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (P.M 2.5) ของจังหวัดลำพูน ในพื้นที่ 8 อำเภอ รวมทั้งจัดกิจกรรม Kick off รณรงค์ "หยุดเผา หยุดฝุ่น เพื่อคุณ เพื่อเรา” สร้างความตระหนักรู้แก่ประชาชน มีการประกาศจังหวัดลำพูน เรื่อง ห้ามบุคคลทำการเผาในที่โล่งในเขตพื้นที่จังหวัดลำพูน และประกาศจังหวัดลำพูน เรื่อง มาตรการลดฝุ่นละอองขนาดเล็ก (P.M 2.5) ในพื้นที่จังหวัดลำพูน ปี 2567 – 2568 นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ยังได้ขอความร่วมมือให้คณะสงฆ์ทุกวัด ร่วมกันแก้ไขวิกฤตปัญหาหมอกควันไฟป่าและฝุ่นละออง เพื่อสุขภาพอนามัยที่ดีของชาวลำพูน ด้านการเฝ้าระวังเชิงรุกในพื้นที่สำคัญ จังหวัดลำพูนไม่รอข้อมูลจากดาวเทียม มีการใช้งานอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) โดยได้ประสานและได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการค้นหาจุดเกิดหมอกควันไฟบนภูเขาสูง หน่วยงานที่มีความพร้อมของอากาศยานไร้คนขับ(โดรน) ควบคุมไฟป่าที่เกิดขึ้นในพื้นที่สูงชัน สำหรับการปฏิบัติการดับไฟโดยอากาศยาน ได้รับการสนับสนุน MI-17 จากกองทัพบก BT 67 จากกองทัพอากาศ KA-32 จากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย  AS 350 จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม BELL 407 จากกรมฝนหลวงและการบิน และยังมีการลาดตระเวนดับไฟป่า จำนวน 604 ครั้ง มีการบูรณาการและสั่งการเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จิตอาสา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควบคุมสถานการณ์การเกิดไฟป่าในพื้นที่และขอรับการสนับสนุนจากหน่วยงานต่าง ๆ จาก ตำรวจตระเวนชายแดนภาค 3 มณฑลทหารบกที่ 33 ศูนย์ปฏิบัติการดับไฟป่าภาค 3 ศูนย์การศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หริภุญไชย จังหวัดลำพูน กองทัพภาคที่ 3 ภาคเอกชน และประชาชน 

         ด้านสถิติการดำเนินคดีเกี่ยวกับการเผาป่า ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (P.M 2.5) จังหวัดลำพูน ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอแม่ทา อำเภอบ้านโฮ่ง อำเภอลี้ อำเภอป่าซาง รวม 6 คดี (ผู้ต้องหา 6 คน) ส่วนสถิติการบังคับใช้กฎหมายตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ในพื้นที่จังหวัดลำพูน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีการบันทึกตักเตือน จำนวน 11 ครั้ง ในพื้นที่อำเภอเมืองลำพูน บ้านโฮ่ง ป่าซาง และลี้ มีการตรวจควันดำจากท่อไอเสียของรถที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล(ในพื้นที่เมือง) ตั้งด่านตรวจจับรถยนต์ควันดำทุกสัปดาห์และตรวจวัด ณ สำนักงานขนส่งจังหวัดลำพูน ดำเนินการได้ จำนวน 2,538 คัน พบว่า มีรถควันเกินมาตรฐาน จำนวน 67 คัน มีคำสั่งห้ามใช้และแจ้งให้เจ้าของรถปรับปรุง ส่วนการตรวจสอบโรงงานอุตสาหกรรม ได้ทำการตรวจเข้มโรงงานอุตสาหกรรมที่มีการระบายอากาศที่เกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิง ให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ปล่อยมลพิษอันเป็นสาเหตุของ PM 2.5 จำนวน 47 แห่ง นอกจากนี้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดลำพูน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ปฏิบัติการฉีดพ่นละอองน้ำ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศในพื้นที่ของจังหวัดลำพูน ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 จนถึงปัจจุบัน โดยใช้น้ำฉีดพ่น จำนวน 754 ครั้ง

        ด้านมาตรการบริหารจัดการไฟป่า หมอกควัน ในพื้นที่เกษตรกรรม ได้แก่ ติดตามสถานการณ์และตรวจสอบจุด Hot Spot และพื้นที่เผาไหม้ โดยใช้ข้อมูลเปรียบเทียบกับพื้นที่เกษตร และให้ชุดปฏิบัติการอำเภอ/ตำบล ลงพื้นที่ตรวจสอบ ตักเตือนทำความเข้าใจกับเกษตรกรในพื้นที่ ตัดสิทธิในการได้รับความช่วยเหลือชดเชยต่าง ๆ จากภาครัฐ ด้านการเกษตร เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน เตือนให้ปฏิบัติให้ถูกต้องภายในเวลาที่กาหนดหากฝ่าฝืนโดยไม่มีเหตุสมควร เลขาธิการ สปก. จะมีคาสั่งให้สิ้นสิทธิ์และต้องออกจากที่ดิน ส่วนเกษตรกรในพื้นที่นิคมสหกรณ์ หากฝ่าฝืนจะชะลอการได้รับหนังสือแสดงการทำประโยชน์ (กสน.5) ส่วนเกษตรกรในพื้นที่เกษตรทั่วไป หากฝ่าฝืนจะไม่ได้การสนับสนุนโครงการ เช่น โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว (ไร่ละ 1,000) การอนุมัติสินเชื่อให้แก่เกษตรกร นอกจากนั้น ยังมีการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้และป้องปรามการเผาในพื้นที่เกษตรกรรม ทั้งนี้ ในพื้นที่เกษตร มีการไถกลบตอซัง/การใช้สารย่อยสลายแล้ว จำนวน 22,670 ไร่ ด้านปฏิบัติการฝนหลวงในพื้นที่จังหวัดลำพูน มีจำนวนวันขึ้นปฏิบัติการ 19 วัน และยังติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ทั้ง 8 อำเภออย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ จังหวัดลำพูน รับมอบอุปกรณ์ดับไฟป่า และเครื่องอุปโภคบริโภคอย่างต่อเนื่อง

รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ได้กำชับให้ทุกพื้นที่เข้มงวดการรับมือและแก้ปัญหาไฟป่าหมอกควันจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ซึ่งคาดว่าจะคลี่คลายประมาณกลางเดือนเมษายน สำหรับในช่วงนี้(กลางเดือน มี.ค. – กลางเดือนเมษายน 2568) จะเป็นช่วงเวลาของสถานการณ์ที่เข้มข้น สำหรับการประกาศปิดป่าในเขตป่าสงวนทั้งหมด ขอให้แจ้งให้ประชาชนได้ทราบอย่างแพร่หลาย ขอให้เพิ่มการลาดตระเวนในทุกพื้นที่และบูรณาการกำลังทหารในพื้นที่จาก กอ.รมน. เข้าเสริมทัพด้วยอีกทางหนึ่ง.