( วันที่ 21 มิถุนายน 2566 ) นายสันติธร ยิ้มละมัย ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน พร้อมด้วย นางดวงกมล ยิ้มละมัย ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดลำพูน นายรุ่งโรจน์ สุนทร ท้องถิ่นจังหวัดลำพูน ร่วมพิธีประกาศความสำเร็จ ภายใต้ชื่องาน "กระทรวงมหาดำทยประกาศความสำเร็จการจัดการขยะอาหารจากครัวเรือน เพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และบรรลุเป้าหมายประเทศไทยที่ยั่งยืน ( MOI's Success on Food Waste Management for Clemate Acction and a Commmitment to Sustainable Thailand )" โดยมีนายกฤษณ์ จิตต์แจ้ง กรรมการผู้จัดการ บมจ.ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) คุนกีต้า ซับบระวาล ผู้ประสานงานสหประชาชาติประจำประเทศไทย พร้อมคณะผู้แทนหน่วยงานใน UN Thailand ผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย เข้าร่วมงาน ที่ห้องประชุมราชบพิธ กระทรวงมหาดไทย
เนื่องด้วย KBANK ประกาศจุดยืนเป็นสถาบันการเงินและผู้ให้บริการทางการเงินรายแรกของประเทศไทย ที่ขับเคลื่อนการคัดแยกขยะและจัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อน สามารถแปลงให้กลายเป็นทุนกลับคืนสู่หมู่บ้าน/ชุมชนได้ ในราคา 260 บาท/ตัน ในเฟสแรก ซึ่งโครงการถังขยะเปียกลดโลกร้อนใช้เวลาในการเดินทางมาเกือบ 10 ปีแล้ว
โดยครั้งแรกเกิดขึ้นที่จังหวัดลำพูนมีการคัดแยกขยะในทุกกิจกรรมของชีวิต แม้แต่งานทำบุญ จะไม่มีอาหารตั้งโต๊ะ แต่เป็นบุฟเฟ่ต์เป็นหม้อ ๆ ใครจะทานเท่าไหร่ก็ไปเติมตักเอา แล้วเศษอาหารที่เป็นขยะเปียก หรือเศษใบไม้ ก็มีการคัดแยก เพื่อที่จะทำให้ลูกหลานไม่เจ็บไข้ได้ป่วยจากไข้ซิก้าอันเกิดจากยุงที่มีแหล่งเพาะพันธุ์จากขยะเน่าเหม็น โดยการจัดการขยะในตอนนั้นใช้ “เสวียน” เป็นหลัก เป็นถังขยะเปียกระบบเปิด จึงได้มาช่วยกันคิดออกแบบจนกลายเป็น “ถังขยะเปียกลดโลกร้อน” และหลังจากนั้นก็ได้ขับเคลื่อนต่อมาโดยโชคดีที่มีภาคีเครือข่าย คือ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) โดยมี ดร.ประเสริฐสุข เพฑูรย์สิทธิชัย เป็นผู้อำนวยการในขณะนั้น รวมทั้งได้รับการสนับสนุนจาก ศาสตราจารย์ ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้อนุญาตให้ ศาสตราจารย์ ดร.ชนาธิป ผาริโน จากภาควิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เข้ามาช่วยในเรื่องการรับรองระเบียบวิธีการวิจัย (Methodology) ในการบริหารจัดการขยะของถังขยะเปียกลดโลกร้อน และส่งให้ อบก. รับรองคิดเป็นค่าคาร์บอนเครดิตร่วมกับหน่วยงานภายนอก”
จากจุดเริ่มต้นในครั้งนั้น จึงเกิดเป็นความต่อเนื่อง จนมาถึงการขับเคลื่อนที่มีอุดมการณ์เดียวกับองค์การสหประชาชาติตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (UN SDGs) คือ การรักษาโลกใบเดียวนี้ให้มีอายุยืนยาว ด้วยการทำให้ประชาชนตื่นตัว ลุกขึ้นมาทำให้การใช้ชีวิตของตัวเองเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทำให้ระบบนิเวศ สภาวะแวดล้อมเหมาะกับลูกหลาน เพื่อให้สามารถอยู่อาศัยได้อย่างมีความสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดี
และในครั้งนี้จังหวัดมีนำร่องทั้ง 4 จังหวัด คือ จังหวัดลำพูน สมุทรสงคราม เลย และจังหวัดอำนาจเจริญ ได้ประกาศความสำเร็จ และในอนาคตจะมีอีก 22 จังหวัด รวมเป็น 26 จังหวัด ซึ่งจะได้ร่วมประกาศความสำเร็จ ปริมาณคาร์บอนเครดิต ที่เราจัดเก็บได้มากกว่า 2 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
วันที่ 13 มี.ค. 2568, 15:54
ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขตตรวจราชการที่ 15 พร้อมคณะ...
วันที่ 12 มี.ค. 2568, 15:25
รองผู้ว่าฯ ลำพูน รับมอบหน้ากากอนามัย จากบริษัท โซเซียลโมชั่...
วันที่ 12 มี.ค. 2568, 12:47
รองผู้ว่าฯ ลำพูน เปิดประชุมเชิงปฏิบัติการ “การสร้างความเข้าใจแนวท...
วันที่ 12 มี.ค. 2568, 12:45
จังหวัดลำพูน จัดกิจกรรมโครงการผู้ว่าฯ พาเข้าวัด ประชา รัฐ ร่วมใจ ใฝ่รักษาศีล 5 จังห...